บริษัท ทริปเปิลที อินเทอร์เน็ต จำกัด (“บริษัท”) ในฐานะเจ้าของและเป็นผู้ดูแลบริหารจัดการ
เว็ปไซต์ www.telehealththai.com และแอพพลิเคชั่นบนมือถือภายใต้ชื่อ”คุยกับหมอ” ตระหนักถึงความสำคัญใน การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ (“ท่าน”) ที่ได้มอบที่ให้ไว้แก่บริษัท และบริษัทได้จัดนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ไว้กับบริษัทในระหว่างการร้องขอการบริการ
การเยี่ยมชมเว็บไซต์ หรือใช้แอพพลิเคชั่นของบริษัท ซึ่งอธิบายถึงลักษณะและวิธีการที่บริษัทปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เช่น การรวบรวม จัดเก็บ ใช้ เปิดเผย ลบ ทำลาย (“ประมวลผล”) รวมถึงสิทธิต่างๆ
ของท่าน เป็นต้น เพื่อให้ท่านได้รับทราบนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท บริษัทจึงประกาศนโยบายส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้
1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทอาจประมวลผล
ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวตนของท่านได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ ดังนี้
- ข้อมูลระบุตัวตน เช่น คำนำหน้า ชื่อ-นามสกุล ภาพถ่าย เพศ วันเดือนปีเกิด บางส่วนของหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน (4 หลักสุดท้าย)หมายเลขหนังสือเดินทาง
- ข้อมูลสำหรับการติดต่อ เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมลล์
- ข้อมูลการเข้ารับบริการ เช่น ข้อมูลการพูดคุยกับแพทย์ ข้อมูลคำแนะนำด้านสุขภาพเบื้องต้นของแพทย์
- ข้อมูลการเข้าร่วมกิจกรรมทางการตลาด เช่น ข้อมูลการลงทะเบียนเพื่อร่วมกิจกรรมกับบริษัท
- ข้อมูลสถิติ เช่น จำนวนผู้ใช้บริการ และการเข้าชมเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่น
- ข้อมูลการเข้าชมเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่น เช่น IP Address
- บันทึกการติดต่อกับบริษัท เช่น การติดต่อผ่านทางหมายเลขโทรศัพท์ของศูนย์บริการลูกค้าของบริษัท และหากท่านติดต่อบริษัทฯ ผ่านช่องทางออนไลน์ ที่บริษัทจัดให้มีไว้เพื่อให้บริการ จะมีการเก็บข้อมูลตำแหน่งของโทรศัพท์มือถือ รวมทั้งรายละเอียดข้อมูลอุปกรณ์หรือเครื่องมือ เช่น IP address, MAC address, Cookie, เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์หรือระบบปฏิบัติการใดๆ เป็นต้น
- ข้อมูลด้านสุขภาพ เพื่อการให้บริการปรึกษาปัญหาสุขภาพเบื้องต้น อันได้แก่ ข้อความปรึกษาปัญหาสุขภาพเบื้องต้น และคำแนะนำข้อมูลสุขภาพเบื้องต้นโดยนําข้อมูลสุขภาพไปใช้ประโยชน์ในการบริการดูแลสุขภาพของเจ้าของข้อมูล รวมถึงประชาสัมพันธ์บริการทางด้านสุขภาพและข้อมูลสุขภาพที่เหมาะสมกับผู้เข้ารับบริการ
- ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยาและการแพ้ยาของท่าน
- บันทึกข้อมูลการสนทนาขณะให้บริการปรึกษาปัญหาสุขภาพเบื้องต้น
- ข้อมูล Feedback และผลลัพธ์จากการปรึกษาสุขภาพหรือการให้คำแนะนำข้อมูลสุขภาพเบื้องต้น
2. บริษัทนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาจากแหล่งใด
2.1 ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง โดยวิธีการใดวิธีการหนึ่ง ดังต่อไปนี้
2.1.1 ใการลงทะเบียนและ/หรือการสมัครใช้บริการออนไลน์ผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชั่น
2.1.2 ทางข้อความสั้น (SMS)
2.1.3 อื่นๆ เช่น email, ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์, ได้รับเอกสารจากท่าน
2.2 ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาจากแหล่งอื่น เช่น ข้อมูลจากเครือข่ายโซเชียลมีเดีย ข้อมูลที่ได้รับจากผู้ให้บริการผลิตภัณฑ์ บริการ เว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นอื่นๆ แหล่งข้อมูลอื่น ๆ ที่มีการจำหน่ายข้อมูลหรือแหล่งข้อมูลสาธารณะ ซึ่งท่านได้ให้ความยินยอมให้เปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับท่าน
3. วัตถุประสงค์และฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อการดำเนินการภายใต้ฐาน ดังนี้
3.1 ประมวลผลตามฐานสัญญา (contract)
เมื่อท่านทำการสมัครเข้าใช้บริการใดๆ ของบริษัท จำเป็นที่ท่านต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัท เพื่อที่บริษัทจะได้นำข้อมูลดังกล่าวไปประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์ในการบริหารจัดการเกี่ยวกับบริการหรือเกี่ยวเนื่องกับการให้บริการ เช่น การติดต่อสื่อสารที่เกี่ยวข้องกับบริการ การให้บริการลูกค้า การควบคุมคุณภาพการให้บริการ การปรับปรุงคุณภาพการบริการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ตอบข้อซักถาม แจ้งการเปลี่ยนแปลงต่างๆ เป็นต้น รวมทั้งเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา อันเป็นกรณีตามฐานสัญญามาตรา 24 (3) ของพรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ
3.2 ประมวลผลตามฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interest)
บริษัทอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปประมวลเพื่อการจัดการ เช่น การยืนยันตัวตน หรือการรวบรวมข้อมูลกรณีเกิดปัญหาเพื่อฟ้องร้องต่อการไม่ปฏิบัติตามสัญญา รวมทั้งเพื่อการจัดทำรายงานภายในของบริษัท การดูแลรักษาระบบเพื่อรักษามาตรฐานการให้บริการ ตลอดจนการจัดการความเสี่ยงของบริษัท และการดำเนินการอันเป็นการจำเป็นอันเป็นกรณีฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายมาตรา 24 (5) ของพรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ
3.3 ประมวลผลตามฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation)
บริษัทอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปประมวลเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ที่ผู้ควบคุมข้อมูลนั้นมีตามที่กฎหมายกำหนด เช่น พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พระราชบัญญัติรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และกฎหมายอื่นที่บริษัทต้องอยู่ภายใต้บังคับกำหนดให้ส่งข้อมูล เช่น กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสถานพยาบาล กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เป็นต้น อันเป็นกรณีตามฐานการปฏิบัติตามกฎหมายมาตรา 24 (6) ของพรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ
3.4 ประมวลผลตามฐานความยินยอม (Consent)
ภายใต้การได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัทอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปประมวลเพื่อการออกแบบหรือพัฒนาบริการ แจ้งข้อมูล ข่าวสาร และแนะนำข้อเสนอต่างๆ เกี่ยวกับการสมัคร การทำกิจกรรมทางการตลาด หรือประมวลผลข้อมูลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง การวิจัยและพัฒนา การได้มาซึ่งกิจการหรือการโอนกิจการหรือการควบกิจการหรือการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างองค์กรไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการตลาดโดยจะส่งข้อมูลให้ท่านทางไปรษณีย์ E-mail หรือ SMS ทางหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ของท่าน หรือช่องทางอื่นใดที่จะได้ตกลงกัน
หากท่านประสงค์จะถอนความยินยอมในการประมวลผลดังกล่าว ท่านสามารถติดต่อบริษัทและแจ้งความประสงค์ได้ตามข้อ 10.
3.5 ประมวลผลตามฐานจดหมายเหตุ / วิจัย / สถิติ
บริษัทอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปประมวลเพื่อการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือที่เกี่ยวกับการศึกษา วิจัย หรือสถิติ ซึ่งบริษัทจะได้จัดให้มีมาตรการปกป้องที่เหมาะสม เพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของท่าน
4. การเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
เมื่อได้รับข้อมูลจากแหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลแล้ว บริษัทจะดำเนินการดังต่อไปนี้กับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
4.1 เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
4.1.1 ในการเก็บรวบรวมข้อมูล และเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทจะเก็บรวบรวมและจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ในการบริหารจัดการเกี่ยวกับบริการหรือเกี่ยวเนื่องกับการให้บริการ หรือวัตถุประสงค์ทางการตลาด หรือวัตถุประสงค์อื่นใดอันชอบด้วยกฎหมาย
4.1.2 บริษัทจะขอความยินยอมจากท่านก่อนทำการเก็บรวบรวม เว้นแต่
(1) เพื่อประโยชน์ในการศึกษา วิจัย หรือจัดทำสถิติ
(2) เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
(3) เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญา หรือก่อนเข้าทำสัญญา
(4) เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
(5) เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย
4.1.3 บริษัทจะไม่จัดเก็บข้อมูลอ่อนไหว (Sensitive Data) อาทิ ข้อมูลเชื้อชาติ เผ่าพันธ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา เป็นต้น เว้นแต่
(1) ได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้ง (explicit consent)
(2) เป็นการดำเนินการโดยชอบด้วยกฎหมายของมูลนิธิ สมาคม หรือองค์กรไม่แสวงหากำไรที่มีวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการเมือง ศาสนา ปรัชญา หรือสหภาพแรงงาน
(3) เป็นการจำเป็นเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพ ซึ่งท่านไม่สามารถให้ความยินยอมได้
(4) เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามพรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ
4.2 การใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ให้ไว้หรือที่มีอยู่กับบริษัทมาใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการบริหารจัดการเกี่ยวกับบริการหรือเกี่ยวเนื่องกับการให้บริการเพื่อให้สามารถใช้บริการได้สะดวกมากยิ่งขึ้น หรือวัตถุประสงค์ทางการตลาด หรือวัตถุประสงค์อื่นใดอันชอบด้วยกฎหมาย
4.3 การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทอาจทำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกเท่าที่จำเป็นเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัทอาจส่งข้อมูลของท่านไปยังบุคคลดังต่อไปนี้
(1) ผู้ประมวลผลข้อมูล หรือผู้ให้บริการคลาวด์คอมพิวติ้ง หรือบุคคลใดๆ ที่บริษัทเป็นคู่สัญญาหรือมีนิติ
สัมพันธ์ด้วย (ไม่ว่าในประเทศหรือต่างประเทศ) เช่น บริษัทในกลุ่มจัสมิน บริษัทในเครือ ผู้สนับสนุนการขาย ผู้เชี่ยวชาญและผู้ให้บริการด้านต่างๆ ซึ่งรวมตลอดถึงผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษาของบริษัทหรือของบุคคลใดๆ ที่บริษัทเป็นคู่สัญญาหรือมีนิติสัมพันธ์ที่เป็นผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ทั้งนี้ เพื่อให้บุคคลหรือนิติบุคคลเหล่านั้นให้บริการแก่บริษัทและท่านอันเกี่ยวข้องกับการให้บริการของบริษัท
(2) หน่วยงานกำกับ หน่วยงานของรัฐบาล หรือหน่วยงานที่มีหน้าที่ดูแล เช่น สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สำนักงานตรวจแห่งชาติ หรือบุคคลใดๆ ก็ตามที่บริษัทต้องเปิดเผยข้อมูลเท่าที่กฎหมายหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกำหนด หรือในกรณีเฉพาะอื่นๆ เช่น เป็นไปตามคำสั่งศาล
(3) เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องของบริษัทตามสัญญาหรือตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
(4) บุคคลที่สนใจลงทุนในบริษัทหรือตัวแทนของบุคคลดังกล่าวในการวิเคราะห์และประเมินข้อมูลในเชิงลึก (due diligence purpose) ไม่ว่าจะเป็นการเข้าลงทุนร่วม การควบรวม การโอนกิจการ หรือการขายธุรกิจหรือทรัพย์สินไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด
5. กระบวนการประมวลผลโดยระบบอัตโนมัติ
ภายใต้การได้รับความยินยอมจากท่านโดยชัดแจ้ง บริษัทอาจใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในการประมวลผลโดยระบบอัตโนมัติซึ่งจะมีผลต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือเพื่อการรวบรวมข้อมูลอื่นๆ เช่น รวบรวมข้อมูลเพื่อการตลาด หากท่านประสงค์จะถอนความยินยอมในการประมวลผลดังกล่าว ท่านสามารถติดต่อบริษัทและแจ้งความประสงค์ได้ตามข้อ 10.
6. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิดำเนินการดังต่อไปนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่บริษัทกำหนด
6.1 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (Right of access): ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือขอให้บริษัทเปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมต่อบริษัทได้
6.2 สิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล (Right to data portability): ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนหากบริษัทได้ทำข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่อ่านหรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานอัตโนมัติ รวมทั้งขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ทั้งนี้ บริษัทอาจปฏิเสธคำขอของท่านได้ตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด
6.3 สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Right to object): ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่านได้ ทั้งนี้ บริษัทอาจปฏิเสธคำขอของท่านได้ตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด
6.4 สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล (Right to erasure): ท่านมีสิทธิขอลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ ภายใต้เงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด
6.5 สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (Right to restriction of processing): ท่านมีสิทธิขอระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ ภายใต้เงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด
6.6 สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (Right to restriction of processing): ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นปัจจุบันหรือสมบูรณ์
6.7 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (Right to withdraw consent) : ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับบริษัทได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าอยู่กับบริษัท
การร้องขอใดๆ เพื่อการใช้สิทธิของท่านตามที่กล่าวข้างต้น บริษัทจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดที่จะดำเนินภายในระยะเวลาที่สมเหตุสมผลและไม่เกินกว่าระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด โดยบริษัทจะปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของส่วนบุคคล
ในกรณีที่ท่านขอให้บริษัทลบ ทำลาย จำกัดการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ระงับการใช้ชั่วคราว ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ หรือขอถอนความยินยอม อาจทำให้เกิดข้อจำกัดกับบริษัทในการธุรกรรมหรือให้บริการแก่ท่านได้
การใช้สิทธิดังกล่าวข้างต้น บริษัทขอสงวนสิทธิในการคิดค่าบริการใดๆ ที่เกี่ยวข้องและจำเป็นต่อการเข้าดำเนินการเกี่ยวข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ท่านร้องขอ
ท่านสามารถขอให้หยุดการใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ หากข้อมูลนั้นถูกนำไปใช้เกินขอบเขต วัตถุประสงค์ หรือไม่ได้รับความยินยอม และไม่เป็นไปตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท หรือตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ การขอให้บริษัทดำเนินการดังกล่าวต้องไม่กระทบต่อการให้บริการหรืออยู่นอกเหนือการดูแลควบคุมของบริษัท
7. การเก็บรักษาและระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัททำการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังนี้
7.1 ลักษณะการจัดเก็บ มีทั้งจัดเก็บเป็น Soft Copy และ Hard Copy
7.2 สถานที่จัดเก็บ มีทั้งเก็บไว้ในตู้ที่มีอุปกรณ์ล็อคและจัดเก็บไว้ในห้องหรือคลังเก็บสินค้า หรือเก็บไว้ใน Computer/Tape หรือเก็บไว้บน Cloud ที่ใช้บริการกับบุคคลภายนอก
7.3 ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เท่าที่จำเป็นเพื่อการใช้ตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น โดย
7.3.1 บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตลอดระยะเวลาที่ท่านยังเป็นลูกค้าผู้ใช้บริการของบริษัท หรือมีนิติสัมพันธ์กับบริษัท
7.3.2 กรณีการให้บริการสิ้นสุดลง บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ เป็นระยะเวลา 10 ปีนับแต่วันที่บริการสิ้นสุดลง เว้นแต่มีกฎหมายกำหนดให้จัดเก็บเป็นระยะเวลาที่มากกว่าหรือน้อยกว่าระยะเวลาดังกล่าว หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามสัญญาหรือตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
7.3.3 ในกรณีที่พ้นระยะเวลาจัดเก็บ บริษัทจะลบหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถระบุตัวตนได้
8. มาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทมีการจัดการข้อมูลในรูปแบบเอกสาร (Hard Copy) และในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ และมีการจัดการทางด้านเทคนิคและกระบวนการที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยมิชอบ
9. การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะทำการพิจารณาทบทวนนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นประจำเพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติและกฎหมาย ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบด้วยการ update ข้อมูลลงใน website ของบริษัท www.telehealththai.com และแอพพลิเคชั่นบนมือถือภายใต้ชื่อ”คุยกับหมอ” โดยเร็วที่สุด
10. วิธีการติดต่อบริษัท
ในกรณีที่ท่านประสงค์จะใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท ท่านสามารถติดต่อบริษัทหรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท ได้ที่ :
สถานที่ติดต่อ : เลขที่ 200 อาคารจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล ทาวเวอร์ ถนนแจ้งวัฒนะ ตำบลปากเกร็ด อำเภอ
ปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
โทรศัพท์หมายเลข : 0 2100 4480 , 092 258 9402
ในวันและเวลาทำการของบริษัท (วันจันทร์-ศุกร์, เวลาทำการ 8.00-17.00 น. เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)
Website: www.3bb.co.th
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล : TSC@jasmine.com
หากท่านเห็นว่าการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่เป็นไปตามพรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ท่านมีสิทธิร้องเรียนไปยังสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล